อาชีพเสริมทำเงิน แนะการจัดสรรเรื่องเงิน ทอง

No comments
By Unknown

 

   อาชีพเสริมทำเงิน แนะการจัดสรรเรื่องเงิน ทอง บริหารเงินสร้างสุข เมื่อที่มาของรายได้ของแต่ละครอบครัวนั้นมีการเปลี่ยนแปลงไป ทุกคนในครอบครัวที่มีบทบาทดังกล่าวจึงต้องมานั่งขบคิดกันว่า ทำอย่างไรถึงจะทำให้สถาบันครอบครัวนั้นสามารถดำรงอยู่ได้ ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงในทุกๆ ด้าน ที่ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นตามไปด้วย เพราะเกือบทุกสังคมในโลกนี้ได้เห็นพ้องกันว่าอำนาจของเงินนั้นมีอิทธิพลต่อ หน้าตา ศักดิ์ศรี และมีความสำคัญต่อภาพลวงตาอีกหลายอย่าง

บริหารเงินสร้างสุข
     ดังนั้นการบริหารเงินและรายได้ของครอบครัวจึงต้องยากกว่าสมัยคุณพ่อคุณแม่ ยังเป็นวัยรุ่นอย่างแน่นอน ทั้งสามีและภรรยาจึงต้องมีส่วนร่วมในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะการยกประเด็นการเงินมาวิเคราะห์กันให้ชัดเจน ซึ่งจะช่วยให้ครอบครัวมีความสมานฉันท์ได้ดีขึ้น มิเช่นนั้นอาจทำให้ปัญหาทางการเงินมาทำลายความสุขของครอบครัว

   ทางที่ดีทั้ง 2 คนจะต้องเปิดอกคุยกันอย่างโปร่งใส (คล้าย ๆ กับระบบธรรมาภิบาลอย่างไรอย่างนั้น !) และจะต้องยอมรับกันอย่างเปิดอกว่าใครมีรายได้มากกว่าใคร สามีได้มากกว่าภรรยาหรือภรรยาหาได้มากกว่าสามี เพื่อสร้างระบบจัดการกับรายได้ว่าใครควรรับผิดชอบค่าใช้จ่ายอะไร และใครมีสิทธิทำอะไรบ้างกับเงินที่หามาได้
ทั้งนี้ดิฉันจะไม่ตัดสินใจแทนคุณนะคะว่าควรจะทำอย่างไรกับชีวิตบ้าง แต่จะชี้แนะหนทางการตัดสินใจที่น่าจะทำให้ครอบครัวยุคใหม่มีทางออกที่ดีขึ้น 3 ทางด้วยกันคือ
1. เสมอภาคมาก่อน ทั้งสามีและภรรยาจะต้องนำเงินมารวมในบัญชีของครอบครัวในจำนวนเท่ากัน (ไม่ว่าใครจะมีรายได้เท่าไหร่) เพื่อเป็นเงินกองกลางและเป็นค่าใช้จ่ายส่วนกลาง ส่วนที่เหลือเก็บเป็นเงินออมหรือนำไปใช้จ่ายตามสมควรด้วยกัน เช่น พาครอบครัวไปพักผ่อนตากอากาศ ซื้อชุดสวยให้กับลูกๆ ฯลฯ
กรณีนี้ฟังดูแล้วยุติธรรมดีนะคะ แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีเงินเดือนน้อยกว่าก็อย่าคิดว่าวิธีนี้เป็นการเอา เปรียบซึ่งกันและกัน เพราะทั้ง 2 คนมีส่วนในความรับผิดชอบร่วมกัน
2. สัดส่วนสำคัญ คุณสามีและภรรยาจะต้องจัดสรรรายได้ออกมาเป็นสัดส่วนที่ชัดเจน แล้วนำไปรวมไว้ในบัญชีของครอบครัวเท่า ๆ กัน เช่น ถ้าสามีจัดสรรเงินจำนวนร้อยละ 75 ของรายได้เข้าบัญชีครอบครัว ภรรยาก็ต้องสละเงินร้อยละ 75 ด้วยเช่นกัน ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 25 ใครจะไปอะไรก็สามารถทำได้ตามอำเภอใจ
วิธีนี้น่าจะมีความยุติธรรมมากขึ้น แต่คนที่มีรายได้น้อยกว่าก็คงต้องอิจฉาและน้อยใจกับอีกฝ่ายหนึ่งอย่างแน่นอน ถ้าคุณภรรยาจะตรวจสอบส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 25 ของคุณสามีหรือไม่นั้น ดิฉันให้คุณตัดสินใจเองนะคะ
3. มีบัญชีร่วมกัน วิธีนี้ทั้งคู่ต้องรวมกันเท่านั้น ส่วนใครจะแยกกันแล้วเกิดอะไรขึ้นบ้างดิฉันไม่ขอพูดถึงนะคะ แต่ถ้าจะรวมกันทั้งสามีและภรรยาจะต้องมีบัญชีร่วมกัน ทุกบาททุกสตางค์ของรายได้จะต้องอยู่ในบัญชีดังกล่าว การนำเงินออกไปจากบัญชีนั้นจะต้องเป็นค่าใช้จ่ายรวมของครอบครัว เช่น ซื้อของ และค่าใช้จ่ายที่จำเป็น ฯลฯ

กรณีที่ 3 นี้น่าจะยุติธรรมมากที่สุด ดิฉันคิดว่าจะไม่มีใครรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจกว่าใคร ไม่ว่าใครจะหาได้มากหรือน้อยกว่ากัน เงินก็ต้องเข้าบัญชีกองกลางอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เงินทุกบาทที่เล็ดลอดออกไปนอกบัญชีจะต้องมีที่มาและที่ไปอย่างชัดเจน
แต่วิธีนี้อาจมีปัญหาเกิดขึ้นได้ เพราะถ้าแต่ละคนต้องรอขออนุญาตอีกฝ่ายหนึ่งสำหรับการจับจ่ายทุกอย่าง อาจทำให้รู้สึกว่าขาดความเป็นอิสระ ดังนั้นครอบครัวยุคนี้จะต้องมีทางออกที่ดีเสมอ ดิฉันขอแนะนำให้มีการจัดตั้งงบประมาณส่วนตัวทั้งของคุณภรรยาและสามี ใครใคร่ใช้จ่ายอะไรก็สามารถตัดสินใจได้เลย ไม่ต้องรอถามใครคนใดคนหนึ่ง
เห็นไหมค่ะว่าทุกปัญหานั้นมีทางออก แต่สิ่งสำคัญที่จะทำให้การจัดสรรค่าใช้จ่ายในครอบครัวมีความลงตัวก็คือ ในฐานะที่เป็นสมาชิกของครอบครัวคุณจะต้องยึดหลักโปร่งใส ซื่อสัตย์ และยุติธรรม แล้วทุกอย่างก็จะราบรื่นอย่างที่คุณวาดฝันเอาไว้ค่ะ

Related posts

0 ความคิดเห็น:

อาชีพเสริม

อาชีพเสริมทำเงิน งานเสริมคีย์ข้อมูล อาชีพเสริมทำที่บ้าน รายได้เสริม อาชีพอิสระ หาอาชีพเสริมหลังเลิกงาน รายได้พิเศษ รายได้เสริมทำที่บ้าน เป็นอาชีพเสริมรายได้ดี งานคีย์ข้อมูล พิมพ์เอกสาร หลังเลิกงาน หลังเลิกเรียน เสาร์อาทิตย์ งานทำที่บ้านผ่านเน็ต งานออนไลน์ทำที่บ้าน งานเสริมสร้างรายได้ งานเสริมทำที่บ้าน